ผมเชื่อว่าสายวินเทจอย่างเราๆนี่ หลายท่านเป็นเหมือนผม คือเวลาเราได้อะไรมาซักอย่างเราจะค้นคว้า หาข้อมูลของสิ่งนั้น มันเป็นความสนุก ความภูมิใจ ที่ได้มี ยิ่งถ้าสิ่งนั้นเต็มไปด้วยคุณค่า เรายิ่งมีความสุข
C.S. Hirose
วันนี้จะพูดถึงจักรยานทำมือของญี่ปุ่นยี่ห้อนึง ซึ่งต้องบอกว่า เป็นยี่ห้อที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ของเจ้าของแบรนด์ เพราะจักรยานแบรนด์นี้ หลายคันเป็นงานทำมือทั้งหมด ทั้งเฟรม อุปกรณ์ต่างๆ จนได้รับคำยกย่อง ชื่นชมจากหลายๆสำนัก ทั้งในญี่ปุ่นเอง รวมถึงฝั่งตะวันตกด้วย นั่นคือยี่ห้อ C.S. Hirose
หลายท่านอาจจะไม่รู้จัก หลายท่านอาจจะตามหาแล้วยังไม่ได้ไว้ในครอบครอง หลายท่านอาจจะมีในครอบครองแล้วก็ยินดีด้วย
วันนี้ ผมมาแบ่งปันข้อมูลบางส่วน เท่าที่หาได้ให้อ่านกัน
อาจารย์ Hidetaka Hirose
อาจารย์ Hidetaka Hirose เกิดในปี 1942 และเสียชีวิตในปี 2020 อาจารย์ ได้เริ่มสร้างจักรยานตั้งแต่ปี 1970 จนสิ้นอายุขัย อาจารย์ตั้งใจที่จะสร้างจักรยาน Custom made อย่างแท้จริง โดยได้ตอบคำถามแนวคิดในการสร้างจักรยานไว้ในบทสัมภาษณ์ ของหนังสือ National Bicycle Guide ว่า
“นักขี่แต่ละคนมีความคาดหวังในจักรยานแตกต่างกัน ความน่าสนใจของจักรยาน Custom made คือสามารถสร้างจักรยานให้ได้ตามความปารถนาเหล่านั้น” จากแนวคิดนี้เองเราจะเห็นว่า จักรยานหลายคันของ Hirose มีความแตกต่างออกไป มากบ้างน้อยบ้าง บางคันเราจะเห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ที่แปลกตา เพราะอุปกรณ์เหล่านั้น อาจารย์ ได้สร้างขึ้นมาเอง และนำไปประกอบสำหรับจักรยาน Custom made.
แบรนด์ Hirose ไม่ได้ทำแค่จักรยาน Custom เท่านั้น จักรยานรูปแบบมาตรฐาน ที่สามารถใส่กับอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีเยอะ อย่างที่เราได้เห็นกันตามแหล่งจักรยานมือ2 ที่เข้ามาในบ้านเรา ในบทสัมภาษณ์ มีรายละเอียดว่า อาจารย์ มีความชำนาญในการสร้างเฟรม ทัวร์ริ่ง (Randonneur) และมินิเวโล (Mini Velo) มากกว่าเฟรมชนิดอื่น
และจากบทสัมภาษณ์ของ Jan Heine ผู้ดูแลเวป Rene’ Herse บอกว่า ก่อนที่คุณจะสามารถสั่งตัดเฟรมกับอาจารย์ได้ อาจารย์จะเชิญคุณไปคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และจัดทริปจักรยานท่องเที่ยว รวม 2 วัน เพื่อสังเกตุ และเก็บข้อมูล ลักษณะนิสัย ทักษะ บุคลิก สไตล์ในการขี่จักรยาน เพื่อนำมาออกแบบจักรยานที่เหมาะกับคุณที่สุดให้จักรยานต่างๆ ของอาจารย์ ถือว่ามีน้อยมากในตลาด และยิ่งน้อยไปอีก สำหรับจักรยาน มินิเวโล
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เพราะผมได้มีโอกาส ทำจักรยาน Mini Velo 16” คันนี้ ถือเป็นความสนุกและความภูมิใจ ที่ได้มีโอกาสสัมผัส เฟรมระดับนี้
จักรยานคันนี้ เป็นเฟรมแบบ lug less (ไม่แน่ใจว่าใช้คำนี้หรือป่าวนะครับ) ยังมีรอยเชื่อมให้เห็น รุปแบบเฟรมเรียบง่าย แต่ประณีต ในงานรีบิวท์ เจ้าของต้องการคงรูปแบบดั้งเดิมที่ได้มาให้ได้มากที่สุด จักรยานคันนี้เกือบทั้งหมดจึงเป็นอุปกรณ์เดิมที่ติดรถมา เฟรมทำสีใหม่ คล้ายกับสีเดิม แต่สดใสกว่า มีการเก็บงานชุบเงา บริเวณ บ่าตะเกียบและซีทสเตย์ เพื่อเพิ่มรายละเอียดให้กับเฟรม อุปกรณ์ ดุมล้อ ชุดขับต่างๆ เกือบทั้งหมดเป็น Campagnolo ชุดเบรค Mafac ถูกรื้อมาทำความสะอาด ขัดเงา เก็บงาน ให้เรียบร้อย ก่อนประกอบกลับเข้าไป สิ่งที่เพิ่มเติม คือเปลี่ยนบังโคลน ทับทิมท้าย ไฟฉายและสูบลมเข้าไปแทนของเดิมที่เสียหาย จุดนึงที่สังเกตให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบคือ แรคหน้า ที่ลงมาต่ำเกือบถึงบังโคลน และมีก้านรับกระเป๋าสูงขึ้นไป เพื่อรองรับ การวางกระเป๋าได้จริง โดยที่ไม่เสียการทรงตัวเวลาขับขี่ ภาพรวมที่ออกมา ส่วนตัวผมถือว่าค่อนข้างดีมาก ในความเรียบง่าย ก็มีลูกเล่นเล็กน้อย เพื่อดึงความสนใจได้ เรียกว่า เอาออกมาขี่เมื่อไหร่ ต้องมีคนมองตามแน่นอน .. สุดท้ายขอขอบคุณพี่เจ้าของรถที่ให้โอกาสได้จัดการรถคันนี้ และหวังว่าเพื่อนๆ จะมีความสุขในการรับชม ขอบคุณครับ